การโจมตี DDoS สามารถกำหนดเป้าหมายแบบฟอร์ม WordPress โดยการล้นเซิร์ฟเวอร์ด้วยปริมาณการรับส่งข้อมูลจำนวนมาก ทำให้เป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้ใช้ที่ถูกกฎหมายในการเข้าถึงและส่งแบบฟอร์ม ต่อไปนี้คือวิธีที่การโจมตี DDoS สามารถกำหนดเป้าหมายรูปแบบ WordPress โดยเฉพาะ:
1. การส่งแบบฟอร์ม: แฮกเกอร์สามารถส่งแบบฟอร์มจำนวนมากไปยังไซต์ WordPress ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล้นหลามและทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานช้าลงหรือไม่ตอบสนอง สิ่งนี้อาจทำให้ผู้ใช้ที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่สามารถส่งแบบฟอร์มหรือเข้าถึงไซต์ได้
2. การประมวลผลแบบฟอร์ม: การโจมตี DDoS สามารถกำหนดเป้าหมายไปที่การประมวลผลการส่งแบบฟอร์ม ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานหนักเกินไปและไม่สามารถจัดการกับการส่งแบบฟอร์มที่ถูกต้องตามกฎหมายได้
3. การจัดเก็บข้อมูลแบบฟอร์ม: แฮกเกอร์สามารถพยายามทำให้เซิร์ฟเวอร์เต็มไปด้วยข้อมูลแบบฟอร์ม ส่งผลให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเกิน ส่งผลให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหาย
4. การตรวจสอบความถูกต้องของแบบฟอร์ม: การโจมตี DDoS สามารถกำหนดเป้าหมายกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของแบบฟอร์ม ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานหนักเกินไปและไม่สามารถตรวจสอบการส่งแบบฟอร์มได้อย่างถูกต้อง
5. ขีดจำกัดการส่งแบบฟอร์ม: แฮกเกอร์สามารถใช้ประโยชน์จากขีดจำกัดการส่งแบบฟอร์ม เช่น จำนวนการส่งแบบฟอร์มที่อนุญาตต่อนาทีหรือชั่วโมง เพื่อทำให้เซิร์ฟเวอร์ล้นเซิร์ฟเวอร์และทำให้เซิร์ฟเวอร์ไม่ตอบสนอง
6. การจัดการฟิลด์ฟอร์ม: การโจมตี DDoS สามารถกำหนดเป้าหมายฟิลด์ฟอร์ม เช่น ฟิลด์ข้อความ ช่องทำเครื่องหมาย หรือดรอปดาวน์ เพื่อจัดการข้อมูลฟอร์มและทำให้ส่งไม่ถูกต้อง
7. ระยะเวลาในการส่งแบบฟอร์ม: แฮกเกอร์สามารถใช้การโจมตี DDoS เพื่อจัดการเวลาในการส่งแบบฟอร์ม ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานหนักเกินไปและไม่สามารถจัดการกับการส่งแบบฟอร์มที่ถูกต้องตามกฎหมายได้
8. ปริมาณการส่งแบบฟอร์ม: การโจมตี DDoS สามารถกำหนดเป้าหมายปริมาณการส่งแบบฟอร์ม ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล้นหลามและไม่สามารถรองรับการส่งแบบฟอร์มจำนวนมากได้
9. ความถี่ในการส่งแบบฟอร์ม: แฮกเกอร์สามารถใช้การโจมตี DDoS เพื่อควบคุมความถี่ของการส่งแบบฟอร์ม ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล้นหลามและไม่สามารถรับมือกับการส่งจำนวนมากได้
10. รูปแบบการส่งแบบฟอร์ม: การโจมตี DDoS สามารถกำหนดเป้าหมายรูปแบบของการส่งแบบฟอร์ม เช่น เวลาและความถี่ของการส่ง เพื่อทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานหนักเกินไปและไม่สามารถจัดการกับการส่งแบบฟอร์มที่ถูกต้องตามกฎหมายได้
เพื่อปกป้องแบบฟอร์ม WordPress จากการโจมตี DDoS จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น:
- การจำกัดแบบฟอร์ม: จำกัดจำนวนการส่งแบบฟอร์มต่อนาทีหรือชั่วโมง เพื่อป้องกันเซิร์ฟเวอร์ล้นหลาม
- การตรวจสอบแบบฟอร์ม: ใช้การตรวจสอบแบบฟอร์มที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการส่งแบบฟอร์มที่เป็นอันตราย
- พื้นที่จัดเก็บแบบฟอร์ม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีความจุเพียงพอในการจัดการข้อมูลในแบบฟอร์ม
- การประมวลผลแบบฟอร์ม: ใช้การประมวลผลแบบฟอร์มที่มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการส่งแบบฟอร์มจำนวนมาก
- ระยะเวลาในการส่งแบบฟอร์ม: ใช้การควบคุมเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้ส่งแบบฟอร์มบ่อยเกินไป
- ปริมาณการส่งแบบฟอร์ม: ใช้การควบคุมระดับเสียงเพื่อป้องกันการส่งแบบฟอร์มจำนวนมาก
- รูปแบบการส่งแบบฟอร์ม: ใช้การจดจำรูปแบบเพื่อตรวจจับและป้องกันการส่งแบบฟอร์มที่เป็นอันตราย
ด้วยการใช้มาตรการเหล่านี้ คุณสามารถลดความเสี่ยงของการโจมตี DDoS ที่กำหนดเป้าหมายไปที่แบบฟอร์ม WordPress ของคุณได้อย่างมาก
การอ้างอิง:[1] https://wpmudev.com/blog/ddos-protection-guide-how-to-help-protect-your-wordpress-site-from-attacks/
[2] https://wp-techsupport.com/how-to-stop-and-prevent-a-ddos-attack-on-wordpress/
[3] https://wpwebinfotech.com/blog/wordpress-ddos-attack/
[4] https://www.linkedin.com/pulse/how-secure-your-wordpress-website-from-ddos-attacks-
[5] https://patchstack.com/articles/protect-wordpress-against-ddos-attacks/
-